นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารสหรัฐ(เฟด)ในวันที่ 28-29 ม.ค.

นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 28-29 ม.ค. ซึ่งจะเป็นการประชุมครั้งแรกของเฟดในปีนี้ รวมทั้งจับตาถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 97.3% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมวันที่ 28-29 ม.ค. นอกจากนี้ นักลงทุนคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค. ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในการประชุมเดือนพ.ค. และคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวในการประชุมในเดือนมิ.ย.และก.ค. ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% สู่ระดับ 3.75-4.00% ในการประชุมเดือนก.ย. และคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมที่เหลือจนสิ้นปี 2568

ราคาทองคำแข็งค่าขึ้นในวันอังคาร เนื่องจากความสนใจเปลี่ยนไปที่การประชุมครั้งแรกของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในปี 2568 ขณะเดียวกัน นักลงทุนพยายามทำความเข้าใจว่านโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ จะส่งผลต่อมุมมองของธนาคารกลางสหรัฐฯ ต่อการเติบโตและอัตราเงินเฟ้ออย่างไร

ราคาทองคำทรงตัวอยู่ที่ 2,742.49 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สัญญาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 0.3% เป็น 2,746.70 ดอลลาร์

ราคาทองคำร่วงลงมากกว่า 1% ในรอบก่อนหน้า ท่ามกลางการเทขายในตลาดที่กว้างขึ้น ซึ่งเกิดจากความสนใจของนักลงทุนใน DeepSeek ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพด้าน AI ของจีน

* คาดว่าผู้กำหนดนโยบายของสหรัฐฯ จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่เดิมในการประชุมกำหนดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะเริ่มต้นในช่วงบ่ายและสิ้นสุดในวันพุธ แต่ทรัมป์อาจทำให้การทำงานซับซ้อนขึ้น หลังจากที่เขากล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าเขาต้องการให้เฟดลดต้นทุนการกู้ยืม

* นักลงทุนจะให้ความสำคัญกับสัญญาณต่างๆ เกี่ยวกับการตัดสินใจด้านนโยบายในอนาคต เนื่องจากทรัมป์เริ่มต้นดำรงตำแหน่งสมัยที่สอง โดยนโยบายภาษีศุลกากรมีแนวโน้มที่จะกระตุ้นเงินเฟ้อ

ความน่าดึงดูดใจของทองคำแท่งในฐานะเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้ออาจลดน้อยลง หากนโยบายของทรัมป์ซึ่งถูกมองว่าทำให้เกิดเงินเฟ้อ กลับส่งผลให้เฟดต้องคงอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้นเป็นเวลานานขึ้น

* ราคาทองคำมีแนวโน้มทำลายสถิติในปี 2568 เนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่เพิ่มมากขึ้นและความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อภายใต้ความต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะล่าสุดของทรัมป์ แม้ว่าดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นและมีแนวโน้มลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ลงก็ตาม

* นักวิเคราะห์ได้ปรับลดคาดการณ์ราคาของแพลตตินัมและแพลเลเดียมในปี 2568 เนื่องจากแนวโน้มความต้องการพยายามที่จะปรับปรุงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าผลสำรวจของรอยเตอร์สเมื่อวันจันทร์แสดงให้เห็นว่าราคาเฉลี่ยของโลหะทั้งสองชนิดมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นในปี 2569

Thomson Reuters