ราคาทองคำพุ่งหลังลดแรงกดดันจากภาษีศุลกากรของทรัมป์ที่ทำให้เกิดความกังวลด้านเศรษฐกิจ

ราคาทองคำพุ่งหลังลดแรงกดดันจากภาษีศุลกากรของทรัมป์ที่ทำให้เกิดความกังวลด้านเศรษฐกิจ

ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นหลังจากการปรับฐานครั้งใหญ่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยนักลงทุนชั่งน้ำหนักแนวโน้มเศรษฐกิจในขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ เตรียมที่จะจัดเก็บภาษีนำเข้าจากคู่ค้าสำคัญทองคำแท่งซื้อขายใกล้ระดับ 2,870 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากร่วงลงเป็นครั้งแรกในรอบสัปดาห์ในปี 2025 เนื่องจากผู้ค้าบางรายได้ทำกำไรหลังจากเริ่มต้นปีด้วยสถิติใหม่ ทรัมป์กำลังจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก 25% ในสัปดาห์นี้ และกำลังวางแผนที่จะเพิ่มภาษีนำเข้าจากจีนเป็นสองเท่า ความกังวลที่เพิ่มขึ้นว่าการดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่กำลังแสดงสัญญาณการชะลอตัวลงอยู่แล้ว ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวเน้นย้ำถึงสถานะของโลหะมีค่าชนิดนี้ในฐานะแหล่งหลบภัย

การที่ความกลัวเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจที่กลับมาฟื้นตัวได้ส่งผลให้ตลาดมีการคาดการณ์ถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น และยังทำให้ทองคำแท่งมีความน่าดึงดูดใจในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทนอีกด้วย

ในขณะเดียวกัน นักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ เนื่องจากมาตรการภาษีที่ทรัมป์เสนอขึ้นอาจส่งผลให้ราคายังคงผันผวนต่อไป ซึ่งเป็นมุมมองที่ทำให้ค่าเงินดอลลาร์พุ่งสูงขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นทำให้ทองคำมีราคาแพงขึ้นสำหรับนักลงทุนต่างชาติ เนื่องจากทองคำมีราคาตามสกุลเงิน

ข้อมูลล่าสุดของสหรัฐฯ ทำให้เกิดความกลัวว่าสหรัฐฯ อาจกำลังเข้าสู่ช่วงที่เรียกว่าภาวะเศรษฐกิจตกต่ำพร้อมภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งเศรษฐกิจจะเผชิญกับทั้งการเติบโตที่ชะลอตัวและเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ซึ่งอาจช่วยหนุนทองคำ ซึ่งเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่มีประโยชน์ในฐานะตัวเก็บมูลค่าในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน

Share this post