ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบเหนือระดับ 2,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ รอตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ
ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบเหนือระดับ $2,900 ในวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนรอผลรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ (NFP) การเคลื่อนไหวในกรอบแคบเป็นวันที่สองติดต่อกัน แสดงให้เห็นว่าตลาดขาดปัจจัยขับเคลื่อนที่ชัดเจนในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง
ปัจจัยกดดันและสนับสนุนราคาทองคำ
ปัจจัยหนุนราคาทองคำ
- แนวโน้มดอลลาร์อ่อนค่า
- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อยู่ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบหลายเดือน เนื่องจากตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งในปี 2025 เพื่อรับมือกับเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
- การคาดการณ์ดังกล่าวทำให้ทองคำได้รับแรงหนุน เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีดอกเบี้ย (non-yielding asset)
- ความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้าของสหรัฐฯ
- นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับนโยบายภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยเฉพาะการกลับลำของเขาเกี่ยวกับภาษีนำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดา ซึ่งสร้างความไม่แน่นอนให้กับตลาด
- ความกังวลนี้กระตุ้นให้เกิดแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
- ความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ
- คำแถลงจากเจ้าหน้าที่ Fed หลายคนแสดงความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อที่อาจลดลงในอนาคต
- นักวิเคราะห์เชื่อว่าหากเศรษฐกิจเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวมากขึ้น Fed อาจต้องลดดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ
ปัจจัยกดดันราคาทองคำ
- การจ้างงานสหรัฐฯ อาจยังแข็งแกร่ง
- ตลาดคาดว่า NFP จะเพิ่มขึ้น 160K ตำแหน่ง และอัตราการว่างงานคงที่ที่ 4%
- หากตัวเลขออกมาดีกว่าคาด อาจหนุนค่าเงินดอลลาร์และกดดันราคาทองคำ
- เจ้าหน้าที่ Fed บางส่วนยังไม่สนับสนุนการลดดอกเบี้ยเร็วเกินไป
- Christopher Waller หนึ่งในคณะกรรมการ Fed ระบุว่า เขายังไม่เห็นความจำเป็นที่ Fed จะต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม
- หาก Fed ยังคงยืดเวลาการลดดอกเบี้ยออกไป อาจสร้างแรงกดดันให้กับราคาทองคำ