ราคาทองคำร่วงจากแรงเทขายทำกำไร ความหวังการเจรจาสันติภาพรัสเซีย-ยูเครน
ราคาทองคำร่วงลงในวันพุธ จากแรงขายทำกำไร หลังราคาพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเร็วๆ นี้ โดยนักลงทุนจับตาการเจรจาสันติภาพ หลังจากรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ตกลงที่จะเจรจาเพิ่มเติมกับรัสเซียเรื่องการยุติสงครามในยูเครน
ราคาทองคำลดลง 0.2% เหลือ 2,928.52 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขาดไป 14 ดอลลาร์จากระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 2,942.70 ดอลลาร์ ซึ่งเคยทำไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
สัญญาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐฯลดลง 0.1% เหลือ 2,945.90 ดอลลาร์
“แนวโน้มขาขึ้นของทองคำยังคงถูกจำกัด เนื่องจากการเจรจารอบแรกระหว่างสหรัฐและรัสเซียเกี่ยวกับข้อตกลงสันติภาพที่อาจเกิดขึ้นในยูเครนสิ้นสุดลงโดยที่ไม่มีแนวทางที่ชัดเจน แต่หากทั้งสองประเทศสามารถบรรลุแผนที่เป็นรูปธรรมได้ ก็อาจส่งผลลบต่อทองคำอย่างแน่นอน” Ajay Kedia ผู้อำนวยการบริษัท Kedia Commodities ซึ่งตั้งอยู่ในมุมไบ กล่าว
“ควรมีการจองกำไรทางเทคนิคเนื่องจากค่าพรีเมียมสงครามน่าจะลดลงเล็กน้อย แนวโน้มขาขึ้นอาจปิดที่ระดับ 2,970 ดอลลาร์เป็นแนวต้านและ 2,890 ดอลลาร์เป็นแนวรับ”
รัฐบาลของทรัมป์กล่าวเมื่อวันอังคารว่า พวกเขาตกลงที่จะเจรจากับรัสเซียอีกครั้งเรื่องการยุติสงครามในยูเครน หลังจากการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนเบื้องต้นสิ้นสุดลงโดยไม่มีเคียฟหรือยุโรปเข้าร่วมโต๊ะเจรจา
ทองคำแท่งถูกมองว่าเป็นการป้องกันความเสี่ยงแบบดั้งเดิมต่ออัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นและความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์
นักวิเคราะห์จาก ANZ กล่าวว่า “การดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์ทำให้เกิดความไม่แน่นอนในด้านเศรษฐกิจมหภาคและภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งน่าจะกระตุ้นให้นักลงทุนกระจายการลงทุนไปลงทุนในทองคำ” และเสริมว่าความต้องการการลงทุน (ในทองคำ) จะได้รับประโยชน์จากความเสี่ยงในด้านเศรษฐกิจมหภาค ภูมิรัฐศาสตร์ การค้า และการคลัง
ราคาทองคำแท่งพุ่งขึ้นกว่า 1% ในช่วงการซื้อขายล่าสุด เนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ เนื่องมาจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแผนภาษีของทรัมป์ ส่งผลให้มีกระแสเงินที่ปลอดภัยไหลเข้าสู่ทองคำแท่ง
ขณะนี้ตลาดกำลังรอรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในเดือนมกราคม ซึ่งจะเผยแพร่ในช่วงบ่ายวันนี้ เพื่อรับทราบเบาะแสเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในปีนี้
REUTERS