ทองคำยังคงพุ่งสูงเป็นประวัติการณื ขณะที่การโจมตีของทรัมป์ต่อประธานเฟดทำให้ผู้ค้าเกิดความกังวล

22 เมษายน (รอยเตอร์) – ราคาทองคำพุ่งขึ้นต่อเนื่องเป็นประวัติการณ์ในวันอังคาร เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ วิพากษ์วิจารณ์ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เจอโรม พาวเวลล์ ส่งผลให้ความเชื่อมั่นต่อความเสี่ยงลดลง และผลักดันให้ผู้ลงทุนหันไปซื้อทองคำแท่งที่ปลอดภัยมากขึ้น

ราคาทองคำพุ่งขึ้น 2% แตะที่ 3,493 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,495 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงก่อนหน้านี้

“นักลงทุนต่างไม่ให้ความสนใจสินทรัพย์ของสหรัฐฯ ท่ามกลางความกังวลเรื่องภาษีศุลกากรและเหตุการณ์ดราม่าระหว่างทรัมป์และพาวเวลล์ ซึ่งทำให้ทองคำยังคงอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมในการหากำไรจากปัญหาของดอลลาร์” ทิม วอเทอร์เรอร์ นักวิเคราะห์ตลาดหลักของ KCM Trade กล่าว

ทรัมป์ย้ำจุดยืนอีกครั้งให้ลดอัตราดอกเบี้ยทันทีเมื่อวันจันทร์ โดยเตือนว่าเศรษฐกิจ สหรัฐ อาจเผชิญภาวะชะลอตัว ขณะเดียวกันก็วิจารณ์จุดยืนของพาวเวลล์ที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมจนกว่าจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบต่อเงินเฟ้อจากแผนภาษี ของทรัม ป์

ตลาดหุ้นเอเชียดิ้นรนเพื่อรักษาเสถียรภาพหลังจากการเทขายสินทรัพย์ของสหรัฐฯ อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้วอลล์สตรีทและดอลลาร์อ่อนค่าลง

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา จีนกล่าวหาวอชิงตันว่าใช้มาตรการภาษีในทางที่ผิดและเตือนประเทศต่างๆ ไม่ให้บรรลุข้อตกลงทางเศรษฐกิจในวงกว้างกับสหรัฐฯ ด้วยค่าใช้จ่ายของตนเอง

“ยังคงมีโอกาสที่จะเกิดการย่อตัวลง เนื่องจากราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในเดือนนี้ แต่มีเหตุผลให้เชื่อได้ว่าผู้ซื้อจะให้ความสนใจในทองคำ หากเกิดการย่อตัวลง เนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่สูงยังคงเป็นประเด็นหลักในตลาด” วอเทอร์กล่าว

ทองคำซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ได้ทะลุระดับ 3,300 ดอลลาร์ในวันพุธที่ผ่านมาและยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้น โดยทะลุระดับ 3,400 ดอลลาร์ในวันจันทร์

อย่างไรก็ตาม ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพันธ์ของทองคำ (RSI) อยู่ที่ 79 ซึ่งบ่งชี้ว่าโลหะชนิดนี้มีการซื้อมากเกินไป

ตลาดต่างรอคอยการกล่าวสุนทรพจน์ของเจ้าหน้าที่เฟดหลายคนในช่วงปลายสัปดาห์นี้ โดยหวังว่าจะได้ทราบข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับนโยบายการเงินในอนาคต ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความเป็นอิสระของธนาคารกลาง

ราคาเงินพุ่งขึ้น 0.5% อยู่ที่ 32.86 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาแพลตตินัมพุ่งขึ้น 0.9% อยู่ที่ 969.95 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่แพลเลเดียมพุ่งขึ้น 2% อยู่ที่ 946.17 ดอลลาร์