ทองปิดบวก $14.1 รับดอลล์อ่อน-แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

ทองปิดบวก $14.1 รับดอลล์อ่อน-แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 ต.ค.) เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำ นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ และความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังเป็นแรงผลักดันให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 14.1 ดอลลาร์ หรือ 0.74% ปิดที่ 1,929.5 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 26.1 เซนต์ หรือ 1.04% ปิดที่ 25.241 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 16.6 ดอลลาร์ หรือ 1.89% ปิดที่ 893.9 ดอลลาร์/ออนซ์

นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ และมีการคาดการณ์กันว่า ทั้งสองฝ่ายอาจจะเลื่อนการเจรจาเพื่อทำข้อตกลงไปหลังการเลือกตั้ง

ด้านโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า สภาคองเกรสสหรัฐจะไม่สามารถออกกฎหมายว่าด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐได้ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พ.ย.

ทั้งนี้ ในขณะที่เหลือเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดี นางเพโลซีและนายมนูชินยังคงมีความขัดแย้งกันเกี่ยวกับประเด็นที่สำคัญ ได้แก่ การให้เงินช่วยเหลือต่อมลรัฐต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมทั้งการแก้ไขปัญหาหนี้สินของภาคธุรกิจ

“หลายประเด็นสำคัญยังคงไม่ได้รับการแก้ไข ทำให้การบรรลุข้อตกลงไม่น่าจะเป็นไปได้” นายอเล็ก ฟิลลิปส์ นักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมน แซคส์ ระบุในรายงาน

“ในขณะนี้ทั้งสองฝ่ายยังคงมีความเห็นที่แตกต่างกันอย่างมาก และเวลาก็เหลือน้อยลง ทำให้คุณเพโลซีและคุณมนูชินคงไม่สามารถบรรลุข้อตกลงก่อนการเลือกตั้ง และต่อให้ทั้งสองคนบรรลุข้อตกลง ก็แทบเป็นไปไม่ได้ที่สภาคองเกรสจะอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ก่อนการเลือกตั้ง” รายงานระบุ

นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับยอดผู้ป่วยโควิด-19 ในยุโรปที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยกระทรวงสาธารณสุขอังกฤษเปิดเผยว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่จำนวน 26,688 ราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อในประเทศพุ่งขึ้นเป็น 789,229 ราย

ที่มา – อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข โทร.02-2535000 ต่อ 338 อีเมล์: [email protected]

Share this post