ทองปิดพุ่ง $11.20 หลังสงคามการค้าทำตลาดหุ้นทรุด-ดอลล์อ่อน

ทองปิดพุ่ง $11.20 หลังสงคามการค้าทำตลาดหุ้นทรุด-ดอลล์อ่อน

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (23 พ.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีน นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยหนุนตลาดทองคำด้วยเช่นกัน

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 11.20 ดอลลาร์ หรือ 0.88% ปิดที่ 1,285.40  ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 16.4 เซนต์ หรือ 1.14% ปิดที่ 14.613 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 5.80 ดอลลาร์ หรือ 0.72% ปิดที่ 799.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 5.7 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 1,307.80 ดอลลาร์/ออนซ์
ราคาทองได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเปรียบเทียบสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐกับอีก 6 สกุลเงินหลัก ปรับตัวลดลง 0.2% แตะที่ 97.889 ซึ่งดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงจะเพิ่มความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น

ดอลลาร์และยูโรร่วงลง ขณะที่นักลงทุนพากันเข้าซื้อเยนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
นอกจากนี้ ทองคำยังได้แรงหนุนจากการร่วงลงของตลาดหุ้น โดยดัชนีดาวโจนส์ทรุดลงราว 400 จุดก่อนทองคำปิดตลาด ขณะที่ดัชนี S&P และ Nasdaq ก็ร่วงลงอย่างหนักเช่นกัน ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ทำให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้น และหันไปซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างเช่นทองคำ รวมถึงเงินเยน

นายเกา เฟิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน กล่าวว่า การดำเนินการทางด้านการค้าของสหรัฐในระยะนี้กำลังเป็นอุปสรรคขัดขวางการเจรจาการค้ากับจีน ซึ่งถ้าสหรัฐต้องการให้การเจรจาการค้าดำเนินต่อไป สหรัฐจะต้องมีความจริงใจในการแก้ไขการกระทำที่ผิดพลาด หลังจากนั้น การเจรจาจึงจะเกิดขึ้นได้

นายเกาไม่ได้ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินการด้านการค้าดังกล่าวของสหรัฐ อย่างไรก็ดี คำกล่าวของนายเกามีขึ้น หลังจากที่สหรัฐขึ้นบัญชีดำบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ ทำให้บริษัทไม่สามารถซื้อสินค้าจากสหรัฐ และสหรัฐยังได้เพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 10%

“การมุ่งโจมตีบริษัทจีนไม่เพียงแต่สร้างความเสียหายต่อความร่วมมือทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ แต่ยังคุกคามต่อความมั่นคงของอุตสาหกรรมระดับโลก และห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งจีนคัดค้านในเรื่องดังกล่าว และเราจะจับตาพัฒนาการ และจะมีการเตรียมการรับมือที่เหมาะสม” เขากล่าว

นอกจากนี้ สหรัฐเตรียมพิจารณาเพิ่มบัญชีรายชื่อบริษัทจีนที่จะถูกขึ้นบัญชีดำ โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กำลังพิจารณาที่จะขึ้นบัญชีดำบริษัทจำหน่ายกล้องวงจรปิดรายใหญ่ 5 รายของจีน ซึ่งรวมถึงบริษัท Hikvision Digital Technology และ บริษัท Dahua Technology ด้วยข้อหากระทำการละเมิดสิทธิมนุษยชน

นายไมค์ ปอมเปโอ รมว.ต่างประเทศสหรัฐ ยืนยันว่า บริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ได้ทำงานให้รัฐบาลจีน แม้บริษัทได้ปฏิเสธเรื่องดังกล่าวก็ตาม
ที่ผ่านมา นายปอมเปโอมักกล่าววิพากษ์วิจารณ์บริษัทหัวเว่ย และได้พบปะกับผู้นำของอังกฤษในเดือนนี้เพื่อขอความร่วมมือในการสกัดกั้นมิให้หัวเว่ยเข้าถึงข้อมูลข่าวกรองของสหรัฐ

นอกจากนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สหรัฐได้ขึ้นบัญชีดำหัวเว่ย ทำให้บริษัทไม่สามารถซื้อสินค้าจากสหรัฐ


ที่มา – อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: [email protected]

Share this post