ทองปิดร่วง $13 เหตุดอลล์แข็ง-บอนด์ยีลด์พุ่งฉุดตลาด
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ในวันพุธ (17 ส.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยกดดันตลาด
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 13 ดอลลาร์ หรือ 0.73% ปิดที่ 1,776.70 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ส.ค.
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 35.4 เซนต์ หรือ 1.76% ปิดที่ 19.731 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 12 ดอลลาร์ หรือ 1.29% ปิดที่ 919.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 12.30 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 2,136.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 3 หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 2.899% เมื่อคืนนี้ ซึ่งจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังสร้างแรงกดดันต่อตลาดทองคำ โดยทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.07% แตะที่ระดับ 106.5760 เมื่อคืนนี้
นักลงทุนรอดูรายงานการประชุมประจำวันที่ 26-27 ก.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการซื้อขายก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะเปิดเผยรายงานการประชุมดังกล่าว
โดย รัตนา พงศ์ทวิช