ทองปิดร่วง $24.2 แรงขายสินทรัพย์ปลอดภัย-บอนด์ยีลด์พุ่งฉุดตลาด
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่สองในวันจันทร์ (14 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความคาดหวังที่ว่าการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนจะมีความคืบหน้า นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 24.2 ดอลลาร์ หรือ 1.22% ปิดที่ 1,960.8 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 86.2 เซนต์ หรือ 3.3% ปิดที่ 25.298 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 36.3 ดอลลาร์ หรือ 3.33% ปิดที่ 1,052.3 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 379.20 ดอลลาร์ หรือ 13.5% ปิดที่ 2,417.60 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเทขายสินทรัพย์ปลอดภัย และหันไปซื้อสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า ท่ามกลางความหวังที่ว่าการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนจะมีความคืบหน้า
นายมิไคโล โปโดลยัก ที่ปรึกษาประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน เปิดเผยว่า การเจรจาสันติภาพรอบที่ 4 ระหว่างยูเครนและรัสเซียซึ่งจัดขึ้นในเมื่อวานนี้ได้เสร็จสิ้นลงโดยยังไม่ได้ข้อสรุป และทั้งสองฝ่ายจะพักการเจรจาชั่วคราว ก่อนที่จะเริ่มการเจรจาครั้งใหม่ในวันนี้ (15 มี.ค.) โดยการเจรจาสันติภาพในครั้งนี้เกี่ยวข้องกับการเรียกร้องให้รัสเซียทำการหยุดยิงและถอนกำลังทหารทั้งหมดออกจากยูเครน
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นสู่ระดับ 2.105% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2562
นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 15-16 มี.ค. ขณะที่ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 4 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2561
ที่มา – อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]