ทองปิดร่วง $28.6 บอนด์ยีลด์พุ่ง-ดอลล์แข็งทุบตลาด
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ (30 มี.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือน นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดทองคำ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 28.6 ดอลลาร์ หรือ 1.67% ปิดที่ 1,686 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค. 2564
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 63.4 เซนต์ หรือ 2.56% ปิดที่ 24.137 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 23.5 ดอลลาร์ หรือ 1.98% ปิดที่ 1,160.6 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 38.30 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 2,569 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งทะลุ 1.77% แตะระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือนเมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาส (Opportunity Cost) ในการถือครองทองคำ เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย นอกจากนี้ การปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลจะดึงดูดให้นักลงทุนหันเข้าซื้อพันธบัตร แต่จะเทขายทอง ในการปรับพอร์ตการลงทุนในกลุ่มสินทรัพย์ปลอดภัย
ทางด้านเครดิตสวิสคาดการณ์ว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีจะพุ่งแตะ 2% ในไตรมาส 2
นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีความน่าดึงดูดน้อยลงสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่นๆ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น 0.39% แตะที่ 93.3004 เมื่อคืนนี้
ที่มา – อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]