ทองปิดร่วง $30 เหตุบอนด์ยีลด์พุ่งฉุดตลาด
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันจันทร์ (27 มี.ค.) โดยตลาดถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ นอกจากนี้ นักลงทุนยังเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังคลายความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในภาคธนาคาร
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 30 ดอลลาร์ หรือ 1.51% ปิดที่ 1,953.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 19.40 เซนต์ หรือ 0.83% ปิดที่ 23.145 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 6.80 ดอลลาร์ หรือ 0.69% ปิดที่ 977.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 10.30 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 1,404.10 ดอลลาร์/ออนซ์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 3.496% เมื่อคืนนี้ ซึ่งจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
นอกจากนี้ นักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากบรรษัทค้ำประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FDIC) เปิดเผยว่า ธนาคารเฟิร์สต์ ซิติเซนส์ แบงก์แชร์ส (First Citizens BancShares) ตกลงเข้าซื้อกิจการธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) แล้ว โดยข้อตกลงดังกล่าวครอบคลุมถึงเงินฝากและเงินกู้ทั้งหมดของ SVB
นักลงทุนจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันศุกร์ ซึ่งจะบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ทั้งนี้ ดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ โดยสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
ที่มา – โดย รัตนา พงศ์ทวิช