ราคาทองคำปรับตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,798 ดอลลาร์ต่ออ่อน จากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า และคาดการณ์ลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด

ราคาทองคำพุ่งขึ้นในวันจันทร์จนเกือบแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง และความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะดำเนินการลดอัตราดอกเบี้ยต่อไปในช่วงปลายปีนี้

*รคาทองคำ เพิ่มขึ้น 0.9% อยู่ที่ 3,794 ดอลลาร์ต่อออนซ์

* สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำของสหรัฐฯ สำหรับการส่งมอบเดือนธันวาคม อยู่ที่ระดับ 3,806.20 ดอลลาร์ ซึ่งทรงตัว

* ดัชนีดอลลาร์สหรัฐลดลง 0.2% เมื่อเทียบกับคู่แข่ง ทำให้ราคาทองคำแท่งที่เป็นเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีราคาถูกลงสำหรับผู้ซื้อจากต่างประเทศ

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า ดัชนีราคาค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนสิงหาคม เมื่อเทียบกับการเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนกรกฎาคมครั้งก่อน ซึ่งตรงกับการประมาณการของนักเศรษฐศาสตร์ที่สำรวจโดยสำนักข่าว Reuters

ปัจจุบัน ผู้ซื้อขายกำลังประเมินโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนตุลาคมอยู่ที่ 90% และมีโอกาสประมาณ 65% ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนธันวาคม ตามข้อมูลของ CME FedWatch Tool

* ตลาดหุ้นในเอเชียเปิดตลาดอย่างระมัดระวังในวันจันทร์ เนื่องจากนักลงทุนเตรียมรับมือกับความเป็นไปได้ที่รัฐบาลสหรัฐฯ จะปิดทำการ

* ขณะนี้ นักลงทุนกำลังรอข้อมูลของสหรัฐฯ เกี่ยวกับตำแหน่งงานว่าง การจ้างงานภาคเอกชน ดัชนี PMI ภาคการผลิตของ ISM และรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรของวันศุกร์ เพื่อให้ได้เบาะแสเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ

กองทุน SPDR Gold Trust กองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนทองคำที่รองรับทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก รายงานว่า ปริมาณการถือครองเพิ่มขึ้น 0.89% สู่ระดับ 1,005.72 ตันในวันศุกร์ จากระดับ 996.85 ตันในวันพฤหัสบดี