ราคาทองคำร่วงจากสัญญาณความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่คลี่คลายลง และอาจเกิดการเทขายทำกำไรในตลาด

ราคาทองคำร่วงจากสัญญาณความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่คลี่คลายลง และอาจเกิดการเทขายทำกำไรในตลาด

ราคาทองคำร่วงลงในการซื้อขายช่วงเช้าของเอเชีย เนื่องจากมีสัญญาณว่าความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีนจะคลี่คลายลง

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ถอนตัวจากคำขู่ที่จะปลดประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ สก็อตต์ เบสเซนต์ แสดงความเห็นว่าความตึงเครียดด้านการค้าจะคลี่คลายลง ซึ่งลดความน่าสนใจในการเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยของโลหะชนิดนี้ลง

* เมื่อวันอังคาร ทรัมป์ถอยห่างจากภัยคุกคามที่จะไล่เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ออก หลังจากที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วงมาหลายวันถึงกรณีไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ย

* ประธานาธิบดียังแสดงความหวังดีว่าข้อตกลงการค้ากับจีนจะสามารถลดภาษีได้ “อย่างมีนัยสำคัญ”

ในขณะเดียวกัน สก็อตต์ เบสเซนต์ กล่าวว่าเขาเชื่อว่าความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนจะคลี่คลายลง แต่การเจรจากับปักกิ่งยังไม่เริ่มต้น และคงเป็นเพียง “เรื่องน่าเบื่อ” เท่านั้น

* หลังจากนั้น ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นบ้างหลังจากแตะระดับต่ำสุดในรอบสามปี ส่งผลให้ทองคำมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่น

* ทองคำที่ไม่ให้ผลตอบแทน ซึ่งถือเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนและอัตราเงินเฟ้อระดับโลก และมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งที่ 28 ในวันอังคาร โดยพุ่งขึ้นแตะระดับ 3,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นครั้งแรก

* นายนีล คาชคารี ประธานธนาคารกลางมินนิโซตา กล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะทราบว่าจำเป็นต้องปรับต้นทุนการกู้ยืมระยะสั้นอย่างไรให้สอดคล้องกับภาษีของทรัมป์ และผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อเงินเฟ้อและเศรษฐกิจ

* ในขณะเดียวกัน JP Morgan มองว่าราคาทองคำจะทะลุ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในปีหน้า

Share this post