ราคาทองคำร่วงลงเป็นวันที่สาม จากการเทขายทำกำไร หลังจากที่แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ราคาทองคำร่วงลงเป็นวันที่สาม จากการเทขายทำกำไร หลังจากที่แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

(บลูมเบิร์ก) –ราคาทองคำร่วงลงเป็นวันที่สาม โดยขยับกลับขึ้นไปในทิศทาง 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องด้วยความกังวลว่าการพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานอาจกลายเป็นร้อนแรงเกินไป

ราคาทองคำสปอตร่วงลงมาอยู่ที่ประมาณ 4,090 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในการซื้อขายช่วงเช้าของวันพฤหัสบดีในเอเชีย ตอกย้ำการรีเซ็ตทางเทคนิค ขณะที่นักลงทุนยังพิจารณาความเป็นไปได้ของข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน เพื่อบรรเทาความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์บางส่วนที่หนุนความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย ราคาทองคำปรับตัวลดลงเกือบ 6% ในสองวันทำการล่าสุดจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ตัวชี้วัดทางเทคนิคแสดงให้เห็นว่าการฟื้นตัวของราคาทองคำน่าจะสูงเกินไป โดยการย่อตัวลงในสัปดาห์นี้ทำให้ตลาดอ่อนแรงลง การซื้อขายที่เรียกว่า Debasement Trading ซึ่งนักลงทุนหลีกเลี่ยงหนี้สาธารณะและสกุลเงินเพื่อป้องกันตนเองจากการขาดดุลงบประมาณที่สูงลิ่ว ถือเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตของทองคำมาตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคม

ราคาทองคำยังคงปรับตัวขึ้นประมาณ 55% ในปีนี้ โดยในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาได้รับการสนับสนุนจากการเดิมพันว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.25 จุดภายในสิ้นปีนี้

“หลังจากการพุ่งขึ้นที่มากเกินไป ราคาทองคำกลับมีพฤติกรรมเหมือนแถบยางยืดที่ถูกดึงมากเกินไปและตอนนี้กำลังดีดกลับอย่างรุนแรง” Hebe Chen นักวิเคราะห์จากบริษัทนายหน้า Vantage Global Prime Pty Ltd กล่าว “ราคาที่ทรงตัวเหนือระดับ 4,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ชี้ให้เห็นถึงการรีเซ็ตทางเทคนิคมากกว่าการเปลี่ยนแปลงพื้นฐาน โดยที่ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยและ ‘การซื้อขายที่ด้อยค่า’ ยังคงอยู่”

บรรดานักเทรดต่างจับตาดูความคืบหน้าที่อาจเกิดขึ้นในการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ และจีน หลังจากความตึงเครียดระหว่างสองประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกที่กลับมาทวีความรุนแรงขึ้นอีกครั้ง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ คาดการณ์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่าการพบปะกับประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนจะนำไปสู่ ​​“ข้อตกลงที่ดี” ในด้านการค้า ขณะเดียวกันก็ยอมรับด้วยว่าการเจรจาอาจไม่เกิดขึ้น

Share this post