ทองปิดบวก $14.4 ดอลล์อ่อน,บอนด์ยีลด์ร่วงหนุนตลาด
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นมายืนที่เหนือระดับ 2,000 ดอลลาร์ได้อีกครั้งเมื่อคืนนี้ (18 ส.ค.) โดยราคาทองคำยังคงได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 14.4 ดอลลาร์ หรือ 0.72% ปิดที่ 2,013.1 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 40.8 เซนต์ หรือ 1.47% ปิดที่ 28.075 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 7.8 ดอลลาร์ หรือ 0.81% ปิดที่ 975.4 ดอลลาร์/ออนซ์
ส่วนสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 5.50 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 2,228.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ ได้รับปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.63% แตะที่ 92.2782 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ เมื่อดอลลาร์อ่อนค่าจะทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีราคาถูกลงและมีความน่าดึงดูดมากขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น
นอกจากนี้ การปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐยังช่วยกระตุ้นแรงซื้อทองคำ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรประเภทอายุ 10 ปีปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 0.66% เมื่อคืนนี้ ซึ่งลดลงราว 0.15% จากระดับของวันจันทร์
นักวิเคราะห์จากบริษัทเอ็กซ์เอ็ม ซึ่งเป็นบริษัทโบรกเกอร์ในสหรัฐ กล่าวว่า นอกเหนือจากการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐแล้ว ราคาทองยังได้แรงหนุนจากหลากหลายปัจจัย ซึ่งรวมถึงการที่ธนาคารกลางทั่วโลกเข้ามามีบทบาทในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ความตึงเครียดระหว่งจีนและสหรัฐยังคงเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
ทั้งนี้ สหรัฐได้ประกาศยกระดับมาตรการกีดกันบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ ซึ่งเป็นธุรกิจโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของจีน โดยพุ่งเป้าไปที่การปิดช่องทางไม่ให้หัวเว่ยเข้าถึงชิปและเทคโนโลยีต่างๆ และสหรัฐยังขึ้นบัญชีดำบริษัทในเครือหัวเว่ยเพิ่มอีก 38 แห่ง ส่งผลให้ยอดรวมบริษัทในเครือหัวเว่ยที่ถูกขึ้นบัญชีดำอยู่ที่ 152 แห่ง โดยสหรัฐมองว่าหัวเว่ยอาศัยบริษัทกลุ่มนี้เพื่อฉวยประโยชน์จากเทคโนโลยีสหรัฐ
ที่มา – อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]