ทองปิดบวก 9.4 ดอลลาร์ ขานรับบอนด์ยีลด์ชะลอตัว
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (15 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการชะลอตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ หลังมีการคาดการณ์ว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐจะส่งผลให้เงินเฟ้อขยายตัวรวดเร็วขึ้น
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 9.4 ดอลลาร์ หรือ 0.55% ปิดที่ 1,729.2 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 2 มี.ค. 2564
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 37.7 เซนต์ หรือ 1.45% ปิดที่ 26.288 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 9.2 ดอลลาร์ หรือ 0.77% ปิดที่ 1,209.5 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 13 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 2,373.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับปัจจัยบวกจากการชะลอตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ โดยเมื่อคืนนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 1.616%
การปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวล หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ตลาดทองคำได้รับแรงกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ซึ่งจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาส (Opportunity Cost) ในการถือครองทองคำ เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
นอกจากนี้ นักลงทุนยังพากันซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ อันเนื่องมาจากการคาดการณ์ที่ว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐจะส่งผลให้เงินเฟ้อขยายตัวรวดเร็วขึ้น หลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้ลงนามในร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์
นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 16-17 มี.ค.นี้ เพื่อดูท่าทีของเฟดเกี่ยวกับแนวโน้มการดีดตัวขึ้นของเงินเฟ้อที่เป็นผลจากการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ รวมทั้งการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
ที่มา – อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]