ทองปิดร่วง $10.3 หลุดระดับ $1,800 กังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ย
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงหลุดจากระดับ 1,800 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (20 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยถึง 3 ครั้งในปีหน้า นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่นักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่จะถึงวันหยุดในเทศกาลคริสต์มาส
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 10.3 ดอลลาร์ หรือ 0.57% ปิดที่ 1,794.6 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 24.2 เซนต์ หรือ 1.07% ปิดที่ 22.291 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 8.1 ดอลลาร์ หรือ 0.87% ปิดที่ 926.4 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ร่วงลง 38.90 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 1,745.90 ดอลลาร์/ออนซ์
ในการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการเฟดประกาศว่าจะเพิ่มการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เป็นเดือนละ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ เริ่มตั้งแต่เดือนม.ค.2565 โดยการปรับลดวงเงิน QE ของเฟดจะเพิ่มขึ้น 2 เท่าจากเดิมเดือนละ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งจะส่งผลให้เฟดยุติการทำ QE ในเดือนมี.ค.2565
นอกจากนี้ ในการคาดการณ์ทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่คาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2565 และปรับขึ้นดอกเบี้ยจำนวน 2 ครั้งในปี 2566 และปรับขึ้นอีก 2 ครั้งในปี 2567
เอ็ด โมยา นักวิเคราะห์จากบริษัท OANDA กล่าวว่า “ภาวะการซื้อขายในตลาดทองคำเป็นไปอย่างซบเซาเนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนถึงวันหยุดในเทศกาลคริสต์มาส อย่างไรก็ดี การที่ตลาดหุ้นร่วงลงอย่างหนักเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับไวรัสโอมิครอนนั้น อาจเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในสัปดาห์นี้”
ที่มา – อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]