ทองปิดลบ $5.1 เหตุบอนด์ยีลด์พุ่ง-นลท.ขายสินทรัพย์ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (29 ธ.ค.) โดยถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่พุ่งขึ้นเหนือระดับ 1.5% และจากการที่นักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นติดต่อกันหลายวันทำการ
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 5.1 ดอลลาร์ หรือ 0.28% ปิดที่ 1,805.8 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 26.3 เซนต์ หรือ 1.14% ปิดที่ 22.858 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 9.8 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 970 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 13.60 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 1.987 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.522% เมื่อคืนนี้ อันเนื่องมาจากการคาดการณ์ที่ว่า การแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนจะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ
ทั้งนี้ การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
นอกจากนี้ นักลงทุนยังเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นติดต่อกันหลายวัน โดยล่าสุดดาวโจนส์ปิดทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ หลังจากผลการวิจัยของหลายสถาบันระบุว่า ผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนมีความเสี่ยงน้อยในการเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล เมื่อเทียบกับผู้ที่ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา
ที่มา – อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]