ราคาทองคำพุ่งขึ้นสู่ระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนที่ 3,464 ดอลลาร์ ท่ามกลางความปั่นป่วนของตลาด

ราคาทองคำพุ่งขึ้นสู่ระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนที่ 3,464 ดอลลาร์ ท่ามกลางความปั่นป่วนของตลาด

ราคาทองคำพุ่งขึ้นในช่วงเช้าของการซื้อขายในตลาดเอเชียทำจุดสูงสุดที่ 3,465 ดอลลาร์ต่อออนซ์ท่ามกลางความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย ประธานาธิบดีทรัมป์ได้เรียกร้องให้เฟดลดอัตราดอกเบี้ยทันทีในโพสต์บนโซเชียลมีเดียเมื่อวันจันทร์ โดยระบุว่าอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลงและเศรษฐกิจอาจชะลอตัวลง

ราคาทองคำพุ่งขึ้นสู่ระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยทะลุแนวต้าน 3,400 ดอลลาร์ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ท่ามกลางความปั่นป่วนของตลาดหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้วิพากษ์วิจารณ์นโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ อีกครั้ง

สัญญาทองคำเดือนมิถุนายนที่เคลื่อนไหวมากที่สุดพุ่งขึ้น 92.20 ดอลลาร์ (2.8%) ในวันจันทร์ ปิดที่ 3,434 ดอลลาร์ต่อออนซ์ทรอย การพุ่งขึ้นอย่างน่าทึ่งนี้ทำให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นมากกว่า 400 ดอลลาร์ภายในเวลาเพียง 9 วันทำการ โดยกำไรในวันนี้มาจากแรงซื้อที่เพิ่มขึ้นเป็นหลัก ซึ่งคิดเป็นประมาณสองในสามของกำไรที่เพิ่มขึ้น 

นักลงทุนแห่เข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ทองคำและฟรังก์สวิส ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นท่ามกลางความไม่แน่นอนของตลาด ดัชนีหุ้นหลักของสหรัฐฯ ลดลงมากกว่า 3% ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์ยังคงใช้คำพูดโจมตีประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ นายเจอโรม พาวเวลล์อย่างต่อเนื่อง

นักลงทุนยังคงแห่ซื้อสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในราคาทองคำ ซึ่งเป็นสินทรัพย์เก็บมูลค่าแบบดั้งเดิม ท่ามกลางความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯ และความไม่แน่นอนของตลาดการเงิน

ปัจจัยเหล่านี้ยังคงแสดงให้เห็นถึงการขาดความเชื่อมั่นในเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ส่งผลให้มีความต้องการราคาทองคำที่กำหนดเป็นดอลลาร์สหรัฐเพิ่มมากขึ้น

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ยังคงโจมตีเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อย่างต่อเนื่อง โดยแสดงความกังวลเกี่ยวกับความเป็นอิสระของเฟด เรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจากมีรายงานว่ารัฐบาลทรัมป์กำลังศึกษาว่าพวกเขาสามารถปลดประธานเฟดออกจากตำแหน่งได้หรือไม่

นอกจากนี้ ความรุนแรงของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน และผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และอัตราเงินเฟ้อ ยังคงเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำ

Share this post