ราคาทองคำพุ่ง หลังเฟดลดอัตราดอกเบี้ย

ราคาทองคำพุ่ง หลังเฟดลดอัตราดอกเบี้ย

ราคาทองคำขยับสูงขึ้นเล็กน้อยในวันศุกร์ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่สามติดต่อกัน เนื่องจากการแสวงหาสินค้าราคาถูกและการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งผลให้ความต้องการเพิ่มขึ้น ขณะที่นักลงทุนกำลังพิจารณาข้อตกลงการค้าเบื้องต้นระหว่างจีนและสหรัฐฯ

* ราคาทองคำเพิ่มขึ้น 0.3% อยู่ที่ 4,034 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ เวลา 01:09 น. GMT ราคาทองคำแท่งเพิ่มขึ้น 4.5% ในเดือนนี้

* สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำของสหรัฐฯ สำหรับการส่งมอบเดือนธันวาคมลดลง 1.1% อยู่ที่ 3,955 ดอลลาร์ต่อออนซ์

* เมื่อวันพุธ ธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25 เปอร์เซ็นต์เป็นครั้งที่สองในปีนี้ ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยข้ามคืนซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงอยู่ที่ระดับเป้าหมายที่ 3.75-4.00 เปอร์เซ็นต์

* ทองคำที่ไม่ให้ผลตอบแทนเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำและในช่วงที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน

* บรรดานักเทรดได้ลดการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมนโยบายครั้งถัดไปในวันที่ 10 ธันวาคม หลังจากคำกล่าวของประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์

ขณะนี้ ตลาดกำลังประเมินความน่าจะเป็น 74.8% ที่จะมีการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดลง 25 จุดพื้นฐานในเดือนธันวาคม เมื่อเทียบกับโอกาส 91.1% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตามเครื่องมือ FedWatch ของ CME Group

* ดัชนีดอลลาร์ควบคุมกำไรทองคำ อยู่ในระดับใกล้ระดับสูงสุดในรอบสามเดือนเมื่อเทียบกับคู่แข่ง ส่งผลให้ผู้ถือสกุลเงินอื่น ๆ มีราคาแพงขึ้น

* ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า เขาตกลงกับประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนในการลดภาษีนำเข้าจากจีน เพื่อแลกกับการที่ปักกิ่งจะปราบปรามการค้าเฟนทานิลที่ผิดกฎหมาย กลับมาซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ อีกครั้ง และรักษาการส่งออกแร่ธาตุหายากให้ดำเนินต่อไป

* ความต้องการทองคำทั่วโลกเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 เมื่อเทียบเป็นรายปี อยู่ที่ 1,313 เมตริกตัน ซึ่งเป็นตัวเลขรายไตรมาสสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในไตรมาสที่ 3 เนื่องจากความต้องการเพื่อการลงทุนเพิ่มสูงขึ้น สภาทองคำโลกกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี

* ในขณะเดียวกัน SPDR Gold รายงานว่า ปริมาณการถือครองเพิ่มขึ้น 0.42% สู่ระดับ 1,040.35 ตันในวันพฤหัสบดี จากระดับ 1,036.05 ตันในวันพุธ

Share this post