ทองปิดร่วง $11.9 เหตุดอลล์แข็ง,บอนด์ยีลด์พุ่งกดดันตลาด
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงหลุดจากระดับ 1,500 ดอลลาร์/ออนซ์เมื่อคืนนี้ (10 ก.ย.) เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์ได้ลดความน่าดึงดูดของสัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ การดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐยังส่งผลให้นักลงทุนเทลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 11.9 ดอลลาร์ หรือ 0.79% ปิดที่ 1,499.2 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 6 ส.ค.
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.9 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 18.186 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 16.1 ดอลลาร์ หรือ 1.69% ปิดที่ 936.6 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 17.30 หรือ 1.1% ปิดที่ 1,554.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เมื่อคืนนี้ เนื่องจากถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวขึ้น 0.01% แตะที่ระดับ 98.38 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่แข็งค่าได้ลดความน่าดึงดูดของทองคำ เนื่องจากทำให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ที่ถือครองเงินสกุลอื่นๆ
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังปรับตัวลงหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 1.688% เมื่อคืนนี้ เนื่องจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ส่งสัญญาณคืบหน้านั้น ทำให้ความต้องการซื้อพันธบัตรลดน้อยลงและฉุดราคาพันธบัตรปรับลงด้วย จึงส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรดีดตัวขึ้น โดยราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน
ที่มา – อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]