ราคาทองคำปรับตัวขึ้นอยู่ที่ 3,246 ดอลลาร์ หลังจากลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 3,201 ดอลลาร์
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นอยู่ที่ 3,246 ดอลลาร์ แม้จะมีการเทขายเมื่อวานนี้ แต่ปัจจัยพื้นฐานของทองคำยังคงแข็งแกร่ง ข้อตกลงด้านภาษีศุลกากรที่จะป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจชะลอตัวและอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น ซึ่งหมายความว่าเฟดอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสภาพแวดล้อมที่มีภาวะเงินเฟ้อสูงแบบชะงักงัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ประกาศข้อตกลงการค้าที่อาจเกิดขึ้นกับอินเดีย เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น โดยมุ่งหวังที่จะเปลี่ยนนโยบายภาษีศุลกากรของตนให้กลายเป็นข้อตกลงการค้า นอกจากนี้ สื่อของรัฐบาลจีนยังรายงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า สหรัฐฯ ได้ติดต่อจีนเพื่อเริ่มการเจรจาการค้าเกี่ยวกับภาษีศุลกากร 145% ของทรัมป์แล้ว ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในวันนี้ เพื่อประเมินแนวโน้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ดอลลาร์สหรัฐ (USD) แข็งค่าขึ้น ตลาดมองว่าความตึงเครียดด้านการค้าเริ่มคลี่คลายลง และกังวลน้อยลงเกี่ยวกับความเป็นอิสระของเฟด ส่งผลให้ความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัยลดลงในตอนนี้ หลังจากมีการเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1 ของสหรัฐฯ ที่อ่อนแอกว่าที่คาดไว้เมื่อวันพุธ ตลาดต่างคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก แม้ว่าทุกอย่างจะขึ้นอยู่กับข้อตกลงการค้าก็ตาม ซึ่งในทางกลับกัน อาจส่งผลให้ราคาทองคำที่ไม่ทำกำไรพุ่งสูงขึ้น ราคาที่ร่วงลงติดต่อกันเป็นครั้งที่สามนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่สหรัฐฯ รายงานเมื่อวันพุธว่าเศรษฐกิจหดตัวอย่างไม่คาดคิดในไตรมาสแรก แม้จะเกิดก่อนที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะกำหนดภาษีศุลกากรโดยรวมกับคู่ค้าส่วนใหญ่ของสหรัฐฯ ในวันที่ 2 เมษายนก็ตาม Ole Hansen หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ที่ Saxo Bank เขียนว่า "รายงานเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังในสัปดาห์นี้จากทั้งสหรัฐและจีน [...]