Goldman Sachs Group Inc. ได้เพิ่มคาดการณ์ราคาทองคำเป็น 3,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในสิ้นปีนี้

(Bloomberg) — Goldman Sachs Group Inc. ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาทองคำเป็น 3,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในสิ้นปี โดยอ้างถึงความต้องการของธนาคารกลางที่แข็งแกร่งเกินคาด รวมถึงเงินไหลเข้าจำนวนมากในกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนที่รองรับด้วยทองคำแท่ง

ธนาคารมีมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อโลหะมีค่า โดยนักวิเคราะห์อย่าง Lina Thomas และ Daan Struyven ได้คาดการณ์ราคาทองคำในปลายปี 2025 ไว้ที่ 3,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์เมื่อเดือนที่แล้ว โดยนักวิเคราะห์ทั้งสองรายระบุว่าความต้องการทองคำในภาคส่วนอย่างเป็นทางการอาจอยู่ที่ราว 70 ตันต่อเดือนในปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ครั้งก่อนซึ่งอยู่ที่ 50 ตัน

ราคาโลหะมีค่าพุ่งขึ้น 15% ในปีนี้ โดยเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาจากปีที่แล้ว ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ราคาทะลุเกณฑ์ทางจิตวิทยาที่สำคัญที่ 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นครั้งแรกในเดือนนี้ โดยนักลงทุนมองหาที่หลบภัยในสินทรัพย์ปลอดภัย เนื่องจากนโยบายต่างประเทศและการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่สร้างความปั่นป่วนให้กับเศรษฐกิจโลก

นักวิเคราะห์โกลด์แมนกล่าวว่าการคาดการณ์ราคาทองคำต่อออนซ์ที่ 3,300 ดอลลาร์ใหม่นี้สะท้อนถึงการฟื้นตัวของการซื้อในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงมกราคม โดยธนาคารกลางซื้อทองคำประมาณ 190 ตันต่อเดือน นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์ว่าจีนอาจยังคงสะสมทองคำในอัตราที่รวดเร็วต่อไปอีกอย่างน้อย 3 ปี

โทมัสและสตรูเวนเขียนว่า “ธนาคารกลาง โดยเฉพาะในตลาดเกิดใหม่ ได้เพิ่มการซื้อทองคำประมาณห้าเท่าตั้งแต่ปี 2022 หลังจากการอายัดเงินสำรองของรัสเซีย เราถือว่านี่เป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในพฤติกรรมการจัดการเงินสำรอง และเราไม่คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในระยะใกล้”

นักวิเคราะห์กล่าวว่ากระแสเงินทุนไหลเข้ากองทุน ETF ที่ได้รับการหนุนหลังด้วยทองคำนั้น “เพิ่มขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ” โดยความต้องการในการป้องกันความเสี่ยงของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้นน่าจะช่วยผลักดันการขยายตัวนี้ นักวิเคราะห์ยังย้ำมุมมองเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสองครั้งจากเฟดในปีนี้

“แม้ว่ากระแสเงินทุน ETF จะเคลื่อนไหวตามอัตราดอกเบี้ยของเฟด แต่ประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นว่ากระแสเงินทุน ETF อาจพุ่งสูงเกินระดับในช่วงที่ความไม่แน่นอนในระดับมหภาคยาวนาน เช่น ในช่วงการระบาดของโควิด-19” นักวิเคราะห์กล่าว นักวิเคราะห์เสริมว่า หากความต้องการที่เพิ่มขึ้นในการป้องกันความเสี่ยงทำให้การถือครอง ETF เพิ่มขึ้นจนเข้าใกล้ระดับสูงสุดในช่วงการระบาดใหญ่ของปี 2020 ราคาอาจพุ่งแตะระดับ 3,680 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในสิ้นปีนี้