ทองปิดบวก $11.7 นลท.แห่ซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหลังจีน-สหรัฐตึงเครียด

ทองปิดบวก $11.7 นลท.แห่ซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหลังจีน-สหรัฐตึงเครียด

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 ส.ค.) เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ว่าทำเนียบขาวและสภาคองเกรสจะสามารถบรรลุข้อตกลงในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในสัปดาห์นี้

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 11.7 ดอลลาร์ หรือ 0.58% ปิดที่ 2,039.7 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 1.721 ดอลลาร์ หรือ 6.25% ปิดที่ 29.261 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 32.3 ดอลลาร์ หรือ 3.33% ปิดที่ 1,002.7 ดอลลาร์/ออนซ์

ส่วนสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 93.80 ดอลลาร์ หรือ 4.3% ปิดที่ 2,270.40 ดอลลาร์/ออนซ์

นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐส่งสัญญาณทวีความรุนแรงขึ้น โดยล่าสุดกระทรวงต่างประเทศของจีนประกาศเมื่อวานนี้ว่า ทางการจีนจะคว่ำบาตรนักการเมืองสหรัฐ ซึ่งรวมถึงนายเท็ด ครูซ วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน และนายมาร์โก รูบิโอ วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน เพื่อตอบโต้ที่ก่อนหน้านี้รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ของจีนและฮ่องกง

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ของจีนและฮ่องกงจำนวน 11 ราย ซึ่งรวมถึงนางแคร์รี ลัม ผู้บริหารสูงสุดของเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างสหรัฐและจีน

สัญญาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากความหวังเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ โดยนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ กล่าวว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เปิดกว้างต่อการเจรจาครั้งใหม่กับแกนนำพรรคเดโมแครตเกี่ยวกับการออกมาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ทั้งนี้ นายมนูชินคาดการณ์ว่า รัฐบาลสหรัฐและสภาคองเกรสจะสามารถบรรลุข้อตกลงในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเร็วที่สุดภายในสัปดาห์นี้ หากพรรคเดโมแครต”มีเหตุมีผล”

ที่มา – อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]

Share this post